Category: ประกันรถยนต์

  • ค่าExcess คืออะไร ฉันทำประกันชั้น 1 นะ ทำไมต้องจ่าย!!!

    ค่าExcess คืออะไร ฉันทำประกันชั้น 1 นะ ทำไมต้องจ่าย!!!

    ค่าExcess

    ค่าExcess อ่านว่า แอ็กเซส นะครับ บางคนเรียก แอ็กเซป อยากจะตีจริงๆ ฮาาาา เรื่องนี้ก็เป็นอีกเรื่องนึงที่ตัวผู้เขียนเอง ต้องพูดเรื่องนี้สัปดาห์ละ 5-6 วัน วันละ 8-9 ครั้ง เป็นเวลาประมาณ 5 ปี เอาจริงๆผมไม่เบื่อนะ ชอบที่จะให้ความรู้จริงๆ ถ้าที่โทรเข้ามาถาม ไม่ได้โทรเข้ามาเถียงนะครับ ฮาาาาา (ส่วนใหญ่จะเถียง) เอาละ เข้าสาระกันดีกว่าค่า Excess คือ ค่าเสียหายส่วนแรกที่ คปภ ระบุให้ประกันเรียกเก็บกับผู้เอาประกันได้ ในเงื่อนไขที่เรียกว่า เงือนไข 4ก. งงละสิ อะไรคือ เงื่อนไข 4ก. มีก.ไก่ 4 ตัวอย่างงี้เหรอ บอกเลยว่าไม่ใช่ครับผม มันคือ  เงื่อนไข ข้อที่ 4 วรรค ก. หมวดความคุ้มครองความเสียหายตัวรถ ระบุไว้ว่า “1,000 แรกของความเสียหายอันมิได้เกิดจาการชนหรือคว่ำหรือกรณีที่เกิดจากการชนแต่ผู้เอาประกันภัยไม่สามารถแจ้งให้บริษัททราบถึงคู่กรณีอีกฝ่ายได้” อ่านแล้วอาจจะงง ไม่เก็ทกับภาษาที่เป็นทางการขนาดนี้ ผมจะอธิบายแบบเข้าใจง่ายๆนะครับ

    ค่าExcess
    เงื่อนไข 4ก ตามเอกสารสารที่บริษัทประกันนำส่งให้ผู้เอาประกัน
      1. ไม่สามารถแจ้งกับประกันได้ถึงคู่กรณีอย่างชัดเจน แจ้งประกันว่า โดนอะไรก็ไม่รู้ เห็นอีกทีมีแล้ว โดนรถคันอื่นชนแต่มันหนีไปแล้วนะ พวกนี้เสีย ค่าExcess เหตุการณ์ละ 1,000 บาท นะครับ
      2. ความเสียหายแบบ เล็กน้อย เบาบาง รอยขนแมว รอยบุ๋มลักยิ้ม ความเสียหายที่ไม่ถึง บุบ หัก แตก ร้าว ครูดเข้าเนื้อ พวกนี้ก็เสีย ค่าExcess เหตุการณ์ละ 1,000 บาทครับ

    แล้วแจ้งเคลมรอบคันละ ทำสีทั้งคันไปเลย แบบนี้เสียค่า Excess หรือเปล่า ตอบได้แบบเข้าใจง่ายๆเลยครับ เสีย!! ครับ ประกันเขาเรียกเก็บเราได้ 8,000 ถึง 10,000 บาท เขาเก็บเราได้โดยที่เขาไม่ผิดครับ แต่ถ้ารถเราไม่เข้าเงื่อนไข 2 ข้อข้างบน ก็ไม่ต้องเสียครับ เคลมแบบไหนถึงไม่เสียละ อ่ะ สมมตินะครับ เราแจ้งว่า “ถอยรถชนเสาที่จอดรถที่ทำงาน เมื่อเช้าวันพุธที่ xx/xx/xxxx เวลาประมาณ 8.25 น. ไฟท้ายแตกเลย” แบบนี้ประกันเรียกเก็บค่าExcess จากเราไม่ได้นะครับ เอาละ ถ้าเป็นแบบนี้ละ “โหยคุณ ผมขับอยู่ดีๆเลยนะ แล้วคันหน้าเบรคไง ผมก็เลยเบรค มอไซด์อ่ะขับตามหลังผมมา เบรคไม่ทัน ชนท้ายผม แล้วมันก็หนีไปเลย ผมมองทะเบียนก็ไม่ทัน ผมเคลมได้มั๊ยแบบนี้ ” เคลมได้ครับผม แต่เห็นมั๊ยว่าไปโดนเงื่อนไขไหน ครับ โดนเงื่อนไขที่เราไม่สามารถแจ้ง คู่กรณีได้อย่างชัดเจนครับ อ้าว แล้วมอเตอร์ไซด์ทั้งคันไม่ชัดตรงไหน ไม่ชัดตรงประกันไม่ได้อยู่ในรถกับคุณด้วยครับ เขาไม่เห็นกับคุณด้วยหรอกครับว่า คุณโดนนะ จริงนะ ถ้ากรณีแบบนี้ ถ้าไม่อยากจะเสีย ค่าExcess นะครับ ทำได้โดย 1.จำทะเบียน ลักษณะรถคู่กรณีได้อย่างชัดเจน มีภาพจากกล้องหน้ารถด้วยก็ดี 2.แจ้งความครับ นำหลักฐาน ข้อมูลคู่กรณีไปแจ้งความครับ ให้ทางตำรวจออกหมายเรียกคู่กรณีครับ แต่… ไม่ใช่แค่แจ้งความก็จบนะครับ ตำรวจต้องตามคู่กรณีมารับทราบข้อกล่าวหาได้ด้วย มั่วๆไม่ได้นะครับจุดนี้ เมื่อคู่กรณีมารับผิดแล้วก็จบกันครับผม ไม่ต้องเสีย Excess แล้ว

    เอาละ ก็จะมีคนบางส่วนคิดแบบนี้ครับ “ฉันทำประกันชั้น 1 นะ ทำไมต้องมาจ่ายอะไรแบบนี้ ฉันไม่จ่ายหรอก” อธิบายแบบนี้นะครับ ค่าExcess ที่คุณกำลังโดนเรียกเก็บอยู่นี้ บริษัทประกันเรียกเก็บได้เฉพาะ ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ที่คุณซื้อไว้นั้นแหละครับ เพระอะไร เพราะประกันชั้นอื่นเคลมไม่ได้ไงครับ เงื่อนไขเหล่านี้ ประกันเขาไม่จ่ายให้คุณแม้แต่บาทเดียวนะครับ ถ้าคุณไม่ได้ซื้อประกันชั้น 1 ไว้ แล้วก็จะมีอีกแบบครับ “ปีที่แล้วไม่เห็นต้องจ่ายเลย” “อีกคันก็เคลมแบบนี้ ไม่เห็นต้องจ่ายซักบาท” ตรงนี้นะครับ ผมอยากจะทำอักษรตัวหน้า ขีดเส้นใต้ ตัวเอียง แล้วทำไฮไลท์ ทับไว้อีกทีเลย เป็นเงื่อนไขที่ บริษัทประกันเรียกเก็บได้ครับ แต่ถ้าเขาจะไม่เก็บก็ได้ ที่เขาไม่เก็บคุณในปีที่แล้ว หรืออีกคันนึง ไม่ใช่ว่าเขาเก็บคุณไม่ได้ แล้วก็จะมีประโยคยอดฮิตครับ “แล้วฉันจะทำประกันชั้น 1 ไปทำไม” คำตอบเหมือนที่บอกไปเลยครับ ทำชั้นอื่นเสียเงินเองเต็มๆนะครับ ประกันไม่จ่ายให้คุณ ซ้ากกกกก บาทเดียว บางคนก็เคลมทุกปีครับ เปลี่ยนย้ายไปเรื่อยๆ กลัวไม่คุ้ม ทำสีทุกปี ประกันเขาเก็บเงินเราได้นะครับ เขาไม่ผิด จริงๆแล้วการทำสีรอบคันเนี่ย ไม่เข้าเงื่อนไขประกันด้วยซ้ำ นัยยะของประกันภัยนะครับ คือการบรรเทาความเสียหายจากอุบัติเหตุ การเคลมรอบคันแบบนี้ มันถือเป็นการบำรุงรถครับ มาถึงตรงนี้ หากข้อความใดของผม ไม่เหมาะสมต้องขออภัยจริงๆครับ อยากให้มองเป็นการสื่อออกมาตรงๆมากกว่าครับ ไม่ต้องอ้อมค้อมกัน อยากให้อ่านเข้าใจง่ายครับ

    ขอขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจากเว็บ ประกันรถยนต์ไทย.com

  • ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ คืออะไร ต้องรียกร้องยังไง แล้วใครต้องเป็นคนทำเรื่อง

    ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ คืออะไร ต้องรียกร้องยังไง แล้วใครต้องเป็นคนทำเรื่อง

    ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ

    เชื่อว่าในยุคสมัยนี้หลายๆท่านคงเคยได้ยินคำว่า ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ กันมาบ้างแล้ว แล้วมันคืออะไรละ ต้องทำยังไง แบบนี้ฉันไปเรียกได้มั๊ยนะ เราจะมาให้คำตอบกัน ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ คือ ความเสียหายจากการเกิดอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นจากการถูกละเมิด โดยผู้ถูกละเมิดเรียกจากผู้ละเมิด

    อ่านมาถึงตรงนี้ บางคนอาจจะอุทานมาว่า อิหยังวะ ฮาฮา แปลเข้าใจง่ายๆนะครับ เป็นค่าใช้จ่ายที่เรียกได้จากการเกิดอุบัติเหตุโดยเราต้องเป็นฝ่ายถูกครับ และเป็นค่าใช้จ่ายที่เราเรียกจากประกันคู่กรณีนะครับ ไม่ได้เรียกจาก ประกันภัยรถยนต์ ของตัวเอง

    แล้วถ้าเราไม่มีประกันละเรียกได้มั๊ย คำตอบคือ ได้ครับ ไม่ได้สำคัญว่าเรามีประกันชั้นไหน หรืออาจจะไม่มีก็ได้ ขอแค่เราเป็นฝ่ายถูก และคู่กรณีมีประกัน เราก็สมารถเรียกจากประกันคู่กรณีได้แล้ว อ้าว แล้วถ้าคู่กรณีไม่มีประกันละ อันนี้แย่หน่อยนะครับ เพราะถ้ามีประกัน เราไปเรียกร้องจากประกันคู่กรณีเขามีเงินจ่ายเราอยู่แล้ว แต่การที่คู่กรณีไม่มีประกันนั่น เราต้องเรียกจากคนที่ชนเราเองเลยครับ เดียวเราจะมาคุยเรื่องนี้ในหัวข้อถัดไปนะครับ

    การเรียกร้องค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ

    เราพอจะเข้าใจคร่าวๆแล้วนะครับว่าค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ คืออะไร ทีนี้มาถึงขั้นตอนการเรียกร้อง

    1. เราต้องเป็นฝ่ายถูกก่อนครับ ฝ่ายถูกคืออะไร ง่ายๆคือเราโดนชนนั้นแหละครับ ตำรวจหรือประกันชี้แล้วว่าเราเป็นฝ่ายถูก คู่กรณีเป็นฝ่ายผิด ง่ายๆเท่านี้เลยครับ มีคนเคยถามผมนะครับ ว่า “พี่อ่านมา พี่เอารถเข้าซ่อมพี่ต้องได้ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถใช่มั๊ย” ผมก็ถามกลับไปว่า “เกิดเหตุยังไงครับ เขาตอบว่า พี่ชนเสา เนี่ยพี่ต้องใช้รถทุกวันเลย เรียกจากใครได้บ้าง” ผมนี่แบบ หึ!!! “พี่ครับ เราได้เฉพาะที่เราเป็นฝ่ายถูกนะครับ แบบนี้เรียกไม่ได้ครับ” เขาก็ถามกลับมาว่า “อ้าวแบบนี้ไม่ถูกเหรอ” ในใจผมตอบเขาไปว่า “ไว้ให้เสาชนพี่ก่อนนะครับ พี่ถึงจะถูกได้” เห้อๆๆ แต่เอาจริงๆ ตอบแบบนั้นไม่ได้ ก็ได้แค่บอกไปว่า “เราต้องโดนคู่กรณีชนเท่านั้นครับ ถึงจะเป็นฝ่ายถูก”
    2. นำรถเข้าจัดซ่อมครับ เขาจะให้เอกสารมา เป็นใบสำคัญการรับรถครับ ว่าเราเอารถเข้าอู่เมื่อไหร่ เก็บไว้นะครับ สำคัญ
    3. นำรถออกจากอู่ รอรถซ่อมเสร็จนั้นแหละครับ บางคนถามว่า อ้าวเบิกก่อนไม่ได้เหรอ ไม่ได้ครับ ไม่งั้นเขาจะไม่ทราบว่า ซ่อมรถกี่วัน ตีค่าเสียหายวันละเท่าไหร่ วันที่เราไปรับรถ เช็ครถดีๆนะครับ ถ้าไม่เรียบร้อยอย่าเซ็นรับนะครับ อันนี้เตือนไว้ เอาละ เราได้รถแล้ว ในวันที่เราไปเอารถ อู่จะให้เซ็นใบส่งรถ ขอถ่ายมาด้วยครับ สำคัญ
    4. เตรียมเอกสารครับ เอาที่สำคัญนะครับ มี บัตรประชาชน ใบขับขี่ สำเนารถ Bookbank ชุดนี้จะเป็นเอกสารของเรานะครับ ชุดต่อไป มี ใบเคลม ใบรับรถ(ตอนที่เอารถเข้าอู่) ใบส่งรถ(ตอนไปเอารถ) ถ้ามีรูปถ่ายการเกิดเหตุและการจัดซ่อมใส่มาด้วยครับ และใบคำขอ ใบนี้เราร่างเองได้เลย เล่าไปว่าวันเกิดเหตุเป็นยังไง เราเสียหายอะไรบ้าง เอารถเข้าที่ไหน ซ่อมกี่วัน แล้วเราจะเรียกร้องเท่าไหร่
    5. เอายื่นที่ประกันคู่กรณีครับ ถ้ามีสาขาใกล้บ้านก็เอายื่นที่นั้น แต่บางประกันสาขาไม่เยอะ ทำไงดี ไม่ยากครับ พับเอกสารใส่ซอง ส่งจดหมายไปรษณีย์ไทยไปได้เลยครับ ใส่เบอร์ติดต่อเราไปด้วยนะครับ เดียวเขาจะให้คนโทรมาต่อรองกับเราเองครับ แนะนำถ้าส่งตัวจริงไป ทำสำเนาไว้ด้วยนะครับ กันเหนียว
    6. ถ้าสิ้นสุดการต่อรองแล้วเราโอเค ก็รอรับเงินได้เลยครับ ถ้าไม่โอเคก็ต้องมีการฟ้องร้องกันต่อไปครับ

    ใครต้องเป็นคนไปทำเรื่อง

    เอาแบบเคลียร์ๆเลยนะครับ เราต้องไปทำเองครับ เคยมีคนพูดกับผมนะครับว่า “โอ้ย ไม่มีเวลาหรอก” “วุ่นวายพี่ไม่ทำเองได้มั๊ย เราทำให้ไม่ได้เหรอ” “ให้ประกันผมทำไม่ได้เหรอ แล้วผมจะเสียเงินซื้อบริการคุณทำไม” เริ่มหลงประเด็นกันไปเรื่อยๆแล้วนะครับ มันคือสิทธิประโยชน์ของเราครับ

    ถามว่าไม่ทำได้มั๊ย ตอบเลยว่าได้ครับ ไม่ไปทำก็ไม่ได้ตังค์ เท่านั้นเอง เป็นสิทธิ์ที่ตัวคุณจะรักษามันมั๊ย ไม่อยากวุ่นวาย เสียเวลา ถ้าคิดตามนี้ ก็ไม่ต้องเอาครับ ง่ายมากๆเลย ประกันเราเขาก็ไม่ทำให้นะครับ ไม่ใช่เพราะเขาไม่ดูแล แต่ไม่เกี่ยวกับเขา ประกันเขาคุ้มครองความเสียตัวรถให้คุณครับ

    ส่วน ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ เนี่ยเป็นความเสียหายที่เกิดขึ้นกับตัวคุณเอง คุณต้องเรียกเองครับ ทีนี้มีคำถามที่ว่า รถชื่อคนอื่นแล้วเราใช้ละ เรียกยังไง ถ้าโอนเข้าบัญชีผู้ครอบครองตามเอกสารรถไม่มีปัญหาครับ ก็เขียนมอบอำนาจมาในบัตรประชาชนของผู้ครอบครองรถได้เลย ว่าให้เราดำเนินการแทน แต่ถ้าจะให้โอนเข้าบัญชีเรานั้น ต้องทำหนังสอมอบอำนาจที่เป็นรูปแบบราชการมาครับ ว่าเราจะเป็นคนรับค่าสินไหมแทนผู้ครอบครองรถ เพื่อป้องกันการเรียกซ้ำซ้อนครับ

    ขอบคุณนะครับที่อ่านมาถึงตรงนี้ บางช่วงบางตอนอาจจะอ่านแล้วรู้สึกไม่น่ารักเลย ผมเพียงแค่อยากจะสื่อให้เห็นภาพหน่ะครับ ต้องขออภัยด้วย ผมเชีอว่ายังมีอีกหลายๆขอสงสัย เราเรียกได้เท่าไหร่เหรอ เราเรียกได้ตามจริงเลยครับ เสียหายเท่าไหร่ก็เรียกได้ แต่ต้องมีเอกสารยืนยันความเสียหายนั้นด้วยนะครับ

    แต่ถ้าขั้นต่ำ คปภ ระบุไว้ว่า ประกันต้องจ่าย ค่าขาดประโยชน์ จากการจัดซ่อมอย่างน้อยวันละ 500 บาท แล้วเขานับวันยังไง เขาตามวันจัดซ่อมนะครับ เราไม่มีรถใช้วันไหน นับตั้งแต่วันนั้น บางทีรถเราเข้าไปจอดในอู่ ซ่อมไป 20 วัน พอไปเรียกประกันคู่กรณีบอกว่า เขาให้ 10 วันนะ วันรออะไหล่เขาไม่นับ แบบนี้ไม่ได้นะครับ เขาต้องให้เราทุกวันที่เราไม่ใช้รถ

    เช่นเเดียวกัน บางคนบอกว่า เรียก 20 วันนะ แต่เพียงแค่เป็นความเสียเล็กน้อย แบบถอดอะไหล่ไว้แล้วรอเข้ามาจอดเพื่อจัดซ่อม ยังใช้รถได้ ซ่อมจริงๆแค่ 10 วัน เขาก็จ่ายแค่10นะครับ รายละเอียดยังมีอีกมากมายนะครับ สอบถามกันมาได้ วันนี้ผมฝากไว้เท่านี้นะครับ

    เครดิตข้อมูล https://ritzcarrental.com/

  • พรบ รถยนต์ คุ้มครอง 80,000 จริงหรือ!!?

    พรบ รถยนต์ คุ้มครอง 80,000 จริงหรือ!!?

    พรบ รถยนต์

    เชื่อว่าหลายๆคนอาจจะเคยเห็นผ่านๆมาว่า รู้หรือไม่ พรบ รถยนต์ จ่ายค่ารักษาพยาบาล 80,000 เลยนะ ถ้าตายจ่าย 300,000 เลยนะ หูววววว มันดีจังเลยนะ แล้วทำไมถึงไม่มีใครบอกเรานะ ตอนซื้อคนขายไม่เห็นบอก เอาจริงๆแล้ว เรื่องราวมันเป็นแบบนั้นหรือเปล่า เราจะมาให้คำตอบกันในบทความกันนะครับ มาถึงตรงนี้อย่าเพิ่งเปลี่ยนไปดูอย่างอื่นนะครับ ค่อนข้างละเอียดเลย

    พรบรถยนต์ จ่ายค่ารักษา 80,000 ?

    ตอบได้เลยครับว่าจริง อ้าว!!! ใจเย็นๆนะครับ การจะจ่าย 80,000 มันมีเงื่อนไขของมันอยู่ คือ เราต้องเป็นฝ่ายถูกครับ ฝ่ายถูกคือยังไง ฝ่ายถูกคือ ตำรวจชี้ว่าเราถูกในอุบัติเหตุครั้งนี้ครับ ลงในเอกสารบันทึกประจำวันชัดเจนว่าเราถูกละเมิดโดยคู่กรณี(เป็นฝ่ายถูกนั่นแหละ) เขาจะจ่ายตามจริง แต่ไม่เกินวงเงินคุ้มครอง 80,000 บาทนะครับ ไม่ใช่เอาเงินมาให้เรา 80,000 เลยนะ ผมต้องดักไว้ก่อนเพราะผมเคยเจอคำถามแบบนี้บ่อยครับ แล้วถ้าเราเป็นฝ่ายผิดละ พรบ ไม่จ่ายเลยเหรอ จ่ายครับ แต่ไม่ใช่วงเงินนี้ เขาจะจ่ายแค่ 30,000 บาทครับ ฝ่ายผิดนี่ยังไงละ ฝ่ายผิดก็เราไปชนรถคนอื่น ชนเสา ชนฟุตปาธ ล้มรถเอง อะไรก็แล้วแต่ที่เราไม่ถูกอ่ะครับ การจะเบิก พรบ เราต้องลงบันทึกประจำวันนะครับ สำคัญมาก

    เสียชีวิต พรบรถยนต์ จ่าย 300,000 ?

    จริงอีกเช่นกันครับ และในเงื่อนเดียวกันกับเมื่อสักครู่เลยครับ คือเราต้องเป็นฝ่ายถูกเช่นกัน แล้วถ้าผิดละ หรือยังสรุปผลไม่ได้ จะจ่ายเท่าไหร่ จ่ายเป็นค่าปลงศพ 35,000 บาทครับ ผมขอขยายความของคำว่าเบื้องต้นนะครับ เบื้องต้นนี้คืออยู่ในขั้นตอนการพิจารณา ยังไม่สามารถชี้ถูกผิดได้ ในขั้นนี้ พรบ จะจ่ายค่าเสียหายตามจำนวนเงินของฝ่ายผิดไปก่อนครับ จนกว่าจะสรุปผลได้ ถ้าเป็นฝ่ายถูกก็จะจ่ายไปตามวงเงินสูงสุดครับ

    ประโยชน์ของ พรบรถยนต์

    ผมอยากทุกคนได้รู้และเข้าใจถึงประโยชน์ของ พรบ รถยนต์ ครับ เพราะทุกคนที่มีรถต้องซื้อไว้อยู่แล้ว เพราะต้องใช้ในการต่อภาษีประจำปี ผมเชื่อเกินว่าหลายๆท่าไม่รู้ข้อมูลส่วนนี้ กว่าจะรู้ก็ต้องเกิดเหตุมาก่อน ต้องไปลองทำก่อน ซึ่งถึงเวลานั้นะครับ เชื่อเถอะว่ามันวุ่นวายมาก ผมเองก่อนจะมาเป็นคนรู้ก็เคยไม่รู้มาก่อน หนักหน่วงครับ มันคืออะไร ทำไม ยังไง งง โห ทำไมมันวุ่นวายอย่างนี้นะ เอาใหม่นะครับ เอาดีๆ ถ้าไม่มีละ เกินคุณไปชนคนเจ็บเข้า จำนวนเงินที่คุณต้องจ่ายไม่ใช่น้อยๆเลย ไหนจะความรู้สึกผิดอีก ที่เราไม่สามารถแก้ไขในสถานะการนี้ได้ บางคนบอก ฉันก็มีประกันรถ ก็ให้ประกันรถจ่ายไปสิ เขาจ่ายนะครับประกันรถหน่ะ แต่เขาจะจ่ายจากส่วนเกินของ พรบ ครับ กล่าวคือ ถ้าเราไม่มี พรบ เงินจำนวน 80,000 นี้เราต้องจ่ายเองครับ พอจ่ายครบ 80,000 ประกันรถยนต์ของเราถึงจะมาจ่าย ฉะนั้น บางอย่างมันวุ่นวายจริงครับ แต่อยากให้ใจเขาใจเราครับ ถ้าเขาจ่ายๆง่าย เขาจ่ายตายได้เลยนะครับ แต่ถ้าเกิดเหตุจริงเขาก็จ่ายจริงเช่นกัน

    สุดท้ายนะครับ เราซื้อ พรบ รถยนต์ไว้ ไม่ได้มีไว้แค่เพียงต่อภาษีประจำปี หรือไว้กันตำรวจนะครับ ถ้าเกิดเหตุที่ไม่คาดฝัน เอกสารฉบับนี้บรรเทาเหตุนั้นได้แน่นอนครับ ไม่มากก็น้อย อย่างน้อยๆก็เป็นความรับผิดชอบต่อตัวเอง ต่อสังคม ต่อผู้ร่วมถนน นะครับ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะเป็นประโยชน์ต่อทุกๆท่านที่เข้ามาอ่านนะครับ

    อ่านบทความอื่น >>> เล่มทะเบียนรถหาย สมุดทะเบียนรถหาย ต้องทำยังไง Update 2562 !

    อ่านรายละเอียดเน้นๆเกี่ยวกับพรบ >>> https://www.easyinsure.co.th/พรบรถยนต์

  • 3 สิ่งที่คุณควรคำนึงถึง ก่อนจะทำประกันวินาศภัย

    3 สิ่งที่คุณควรคำนึงถึง ก่อนจะทำประกันวินาศภัย

    ประกันวินาศภัย

    การทำ ประกันวินาศภัย นั้นเป็นสิ่งที่ผู้คนที่มีทรัพย์สินต่าง ๆ เช่น บ้าน รถยนต์ เป็นต้น เลือกทำกันอย่างมาก เนื่องจากคิดว่ามีความจำเป็นหรือทำเพื่อป้องกันความเสียหายไว้แต่เนิ่น ๆ เพราะหากว่าเกิดอุบัติเหตุทำให้ทรัพย์สินเสียหาย ผู้ที่เป็นเจ้าของก็จะต้องเสียเงินจำนวนมากเพื่อซ่อมบำรุงหรือซื้อใหม่

    และอุบัติเหตุอาจส่งผลกระทบต่อชีวิตของบุคคลได้ แต่สำหรับผู้ที่ต้องการคุ้มครองทรัพย์สินเพียงอย่างเดียว ก็สามารถเลือกทำประกันวินาศภัย เพื่อคุ้มครองทรัพย์สินที่ต้องการ โดย 3 สิ่งที่คุณควรคำนึงถึงก่อนทำประกัน เพื่อให้เกิดคุ้มค่า ดังนี้

    ความจำเป็นในการทำประกันวินาศภัย

    สิ่งที่ควรคำนึงถึงเป็นอย่างแรก ก็คือ ความจำเป็น นั่นเอง ไม่ว่าจะทำประกันประเภทใดก็ตาม แน่นอนว่าการทำประกันวินาศภัย เพื่อความปลอดภัยในทรัพย์สินเมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้นในอนาคตเป็นเรื่องที่ดี แต่หากยังไม่มีความจำเป็นที่จะทำ เช่น ไม่ได้ใช้รถยนต์บ่อย ไม่ค่อยได้ออกกจากบ้านบ่อยมากนัก เป็นต้น ก็ไม่จำเป็นจะต้องทำประกันนั่นเอง

    ทุนและเบี้ยประกัน

    การทำประกัน คุณจะยึดเพียงแค่ความครอบคลุมอย่างเดียวไม่ได้ เพราะความคุ้มค่านั้น จะต้องเกิดจากการลงทุนแล้วได้ผลตอบแทนที่คุ้มค่าด้วยนั่นเอง ซึ่งการลงทุน ก็หมายถึง “เบี้ยประกัน” เป็นเงินที่ทางผู้ทำประกันได้จ่ายไว้เพื่อรับความคุ้มครองจากบริษัทประกัน และ “ทุนประกัน” ก็คือ เงินที่ทางบริษัทจะให้คุณ ตามเงื่อนไขที่ได้ตกลงไว้เมื่อสมัครนั่นเอง โดยคุณจะต้องปรึกษาและสอบถามบริษัทประกัน ว่าจะต้องจ่ายเบี้ยประกันเป็นเงินเท่าไร ได้รับทุนประกันเท่าไร เพื่อเปรียบเทียบความคุ้มค่าก่อนสมัครประกันนั่นเอง

    ความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น

    ความเสี่ยงในการ ประกันวินาศภัย นั้นมีหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น ความเสี่ยงในการรับเงินเบี้ยประกันจากบริษัทประกัน เนื่องจากคุณจะต้องทำตามเงื่อนไขสัญญา จึงจะสามารถรับเงินประกันได้ ความเสี่ยงในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุต่อร่างกายของผู้ทำประกันและผู้อื่น เนื่องจากต้องศึกษาความคลอบคลุมของประกัน ซึ่งประกันในประเภทนี้ไม่รองรับในเรื่องอุบัติเหตุทางร่างกาย จะต้องใช้เงินของคุณเองในการรักษาอาการบาดเจ็บ เป็นต้น

    การทำประกัน คุณควรจะนึกถึง 3 สิ่งเหล่านี้ก่อน เพื่อให้คุณได้รับความคุ้มครองอุบัติเหตุที่ดี มีความครอบคลุมหลากหลาย และเพื่อให้เกิดความคุ้มค่าในการทำประกัน แน่นอนว่าผู้ที่มีทรัพย์สินมีค่าก็ต้องการที่จะปกป้องคุ้มครองความเสียหาย

    แต่หากคิดคำนึงถึงเหตุผลและความสำคัญในการทำประกัน ความถี่ในการใช้งาน หรือความเสี่ยงต่าง ๆ ที่จะเกิดอุบัติเหตุขึ้นกับทรัพย์สินของคุณก่อนที่จะเลือกทำประกัน ก็จะทำให้เกิดความคุ้มค่าทั้งในการคุ้มครองทรัพย์สินและเงินที่คุณจะต้องเสียไปอีกด้วย ไม่ต้องเสี่ยงและเสียเงินโดยไม่คุ้มค่าอีกต่อไป

    คำศัพท์ที่ควรรู้ก่อนทำประกัน : ทุนประกัน คืออะไร ? ยิ่งทุนประกันรถยนต์สูง ยิ่งดีจริงหรอ

  • ข้อมูลบริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) กับช่องทางในการซื้อประกันภัยรถยนต์ ที่ไว้ใจได้

    ทิพยประกันภัย

    ทิพยประกันภัย เป็นบริษัทที่ก่อตั้งขึ้นมาตั้งแต่ปีพ.ศ. 2494 และดำเนินธุรกิจเรื่อยมาจนถึงปัจจุบันเป็นหนึ่งในบริษัทประกันที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ทำให้มีความมั่นคงและสามารถไว้วางใจในการใช้บริการเพราะบริษัทที่จะสามารถจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ได้จะต้องประกอบธุรกิจที่โปร่งใสและทุกการลงทุนจะต้องมีการแจ้งต่อกลต. ทำให้ถ้าเราเลือกใช้บริการประกันรถยนต์ทิพยประกันภัยจะสามารถอุ่นใจกับบริษัทที่มีชื่อเสียงและมีการเงินที่มั่นคง

    ด้วยชื่อเสียงของ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ที่สั่งสมมาอย่างยาวนานและสามารถก้าวข้ามผ่านวิกฤตต่าง ๆของประเทศมาจนถึงปัจจุบัน สามารถบ่งบอกได้อย่างดีว่าเป็นบริษัทที่มีความสามารถในการแข่งขันทางด้านธุรกิจจนยืนระยะมาถึงทุกวันนี้

    ทิพยประกันภัยดีไหม

    ซึ่งถ้าเราลองย้อนกลับไปจะพบว่าการที่บริษัทจะก้าวข้ามผ่านวิกฤตของประเทศในแต่ละช่วงจำเป็นต้องใช้บุคลากรที่มีความสามารถในการจัดการธุรกิจและการจัดการทางการเงิน เพราะหลายบริษัททำการปิดตัวลงในสมัยวิกฤตเศรษฐกิจต้มยำกุ้งแต่บริษัทแห่งนี้ยังคงแข็งแกร่งมาจนถึงปัจจุบัน

    ทำให้เรามั่นใจได้ว่าถ้าใช้บริการ ประกันภัยรถยนต์ทิพยประกันภัย เราจะได้รับการดูแลอย่างดีจากทางบริษัท โดยช่องทางที่จะช่วยให้เราสามารถซื้อประกันได้อย่างมั่นใจและไว้วางใจได้และเป็นช่องทางที่ดีกว่าในการติดต่อด้วยตัวเองนั่นคือการประสานงานขอข้อมูลจากโบรกเกอร์ประกันภัย

    เพราะการใช้บริการผ่านช่องทางออนไลน์ที่มีระบบตัวแทนจากทางบริษัทประกันที่มีความเป็นมืออาชีพ สิ่งที่เราจะได้รับเหนือกว่าการติดต่อด้วยตัวเองคือเจ้าหน้าที่จะมีความเป็นมืออาชีพมักจะให้ข้อมูลที่ดีและเป็นข้อมูลที่สำคัญกับเราเสมอ รวมทั้งมีโปรโมชั่นที่มากกว่าและยังมีคำแนะนำให้กับผู้สนใจทำประกันเพื่อเป็นทางเลือกที่ดีกว่า ซึ่งในการติดต่อประสานงานผ่านระบบนี้คุณจะพบว่าในการจัดการธุรกรรมทางการเงินการจัดการเอกสารหรือการประสานงานในกรณีเคลมประกัน จะมีความรวดเร็วเพราะเจ้าหน้าที่มีความเป็นมืออาชีพ

    สำหรับผู้สนใจทำประกันที่ตัดสินใจเลือก บริษัททิพยประกันภัย เพียงแค่การติดต่อผ่าน โบรกเกอร์ประกันภัย เพราะจะช่วยทำให้คุณสะดวกมากยิ่งขึ้น ทั้งการจัดเตรียมเอกสาร การให้คำแนะนำ รวมถึงมีบริการผ่อนชำระโดยที่ไม่จำเป็นต้องจ่ายเบี้ยประกันในครั้งเดียวเต็มจำนวน เป็นการแบ่งเบาภาระให้กับการทำประกันได้อย่างดี

    นอกจากนี้ทางโบรกเกอร์ประกันภัย ยังมีข้อเสนอสุดพิเศษที่มอบให้กับลูกค้าและสามารถตรวจสอบรายละเอียดพิเศษได้ตลอด 24 ชั่วโมงสำหรับท่านที่สนใจเพียงแค่กดคลิกเข้าที่เว็บไซต์ คุณจะได้พบกับข้อเสนอที่สามารถเปรียบเทียบประกันภัยรถยนต์ของแต่ละบริษัท รวมถึงของ ทิพยประกันภัย รถยนต์เพื่อสนับสนุนการตัดสินใจให้ได้ประกันรถที่ดีที่สุดพร้อมทั้งปลอดภัยไว้ใจได้

  • วิริยะประกันภัย Top 5 บริษัทประกันภัยรถยนต์ ที่คนไทยเลือกซื้อความคุ้มครอง

    วิริยะประกันภัย Top 5 บริษัทประกันภัยรถยนต์ ที่คนไทยเลือกซื้อความคุ้มครอง

    วิริยะประกันภัย
    วิริยะประกันภัย ประกันวิริยะ ชั้น 1 2+ 3+ ราคาถูก พร้อมข้อมูลบริษัท

    วิริยะประกันภัย

    สำหรับใครที่กำลังมองหาประกันรถยนต์ การหาข้อมูลในโซเชียลคุณจะพบว่า วิริยะประกันภัย เป็นบริษัทประกันอันดับต้นๆติด Top 5 ที่คนไทยเลือกใช้บริการ โดยส่วนใหญ่มักให้ความสำคัญเรื่องความมั่นคงของทางบริษัทที่พร้อมจะจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้กับผู้ทำประกัน

    นอกจากนี้ทางบริษัทยังมีศูนย์ซ่อมอยู่ในเครือให้เลือกจำนวนมาก จึงสะดวกในการติดต่อไม่ว่าจะใช้บริการกับอู่ซ่อมรถที่ไหน เรามาดูข้อมูลเพิ่มเติมกันดีกว่าว่าเพราะอะไรทำไมบริษัทแห่งนี้จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่คนไทยให้ความไว้วางใจเพื่อที่เราจะได้เตรียมความพร้อมเพราะเรามีโอกาสเลือกสิ่งที่ดีที่สุด

    บริษัทวิริยะประกันภัย อยู่คู่คนไทยมายาวนานกว่า 70 ปี

    หากเราพิจารณาตามความเป็นจริงบริษัทที่เปิดให้บริการมาอย่างยาวนานย่อมบ่งบอกถึงความมั่นคงของบริษัท ประสบการณ์ในการทำธุรกิจ รวมทั้งความเป็นมืออาชีพในการให้บริการ หากบริษัทไหนที่เปิดมานานย่อมมีประสบการณ์และความชำนาญในการให้บริการ

    โดยหนึ่งในนั้นคือบริษัท วิริยะประกันภัย ที่เปิดดูแลสำหรับผู้สนใจทำประกันโดยมีหลายรูปแบบให้เลือก มีบริการที่ได้รับการตอบรับอย่างดีจากคนไทย ซึ่งประกันรถยนต์วิริยะมีข้อมูลที่ผู้ใช้งานส่วนใหญ่แนะนำและมีการพูดถึงอย่างมาก นั้นคือ อู่ซ่อมที่มีให้เลือกเยอะ

    โดยแต่ละอู่ที่อยู่ในเครือของทางบริษัทจะต้องได้รับการตรวจสอบและผ่านมาตรฐานของทางบริษัทก่อนจึงจะเข้ามาอยู่ในเครือข่ายของบริษัทได้ จึงเป็นอีกหนึ่งการสกรีนที่ดีให้กับผู้ที่ทำประกันของบริษัทแห่งนี้ นอกจากนี้ทางบริษัทยังมีบริการให้ใช้รถฟรีในระหว่างที่มีการส่งรถซ่อม

    ส่วนข้อมูลของสิ่งที่ผู้สนใจทำประกันควรจะให้ความสำคัญหากต้องการใช้บริการของประกันวิริยะคือมองหาตัวแทนที่มีความเป็นมืออาชีพคอยประสานงานติดต่อกับทางบริษัทประกัน ทั้งเรื่องการส่งเอกสาร การเคลมหรือการแจ้งปัญหา เมื่อเกิดประสบอุบัติเหตุ ตัวแทนหรือโบรกเกอร์ประกันภัยที่มีความเป็นมืออาชีพจะมีบริการที่ดี เป็นตัวช่วยให้คุณสามารถเบิกจ่ายเมื่อเกิดอุบัติเหตุ

    ยกตัวอย่างเช่น การซื้อวิริยะประกันภัยรถยนต์กับทางบริษัทอีซี่อินชัวร์ ซึ่งเป็นบริการออนไลน์ที่ได้รับความนิยมอันดับต้น ๆ โดยทางบริษัทมีแผนกดูแลลูกค้าและสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลได้ตลอดและบริษัทจะมีการประสานงานให้ผู้ทำประกัน

    จึงทำให้เว็ปไซต์แห่งนี้กลายเป็นทางเลือกอันดับต้น ๆ ที่ลูกค้าเลือกใช้บริการ โดยไม่จำเป็นต้องติดต่อกับทางบริษัทด้วยตัวเอง ไม่ต้องเสียเวลาจัดเตรียมเอกสารเพราะทางบริษัทจะดำเนินการให้จนกว่าจะเสร็จสิ้นกระบวนการ จึงสร้างความสะดวกให้กับผู้ทำประกันอย่างมาก

    วิริยะประกันภัยดีไหม

    สำหรับผู้สนใจทำประกันและกำลังเลือกบริษัท วิริยะประกันภัย เพื่อให้เข้ามาดูแลรถของคุณ ไม่ว่าจะเป็นประกันชั้นไหนก็ตาม สามารถติดต่อกับทางเว็บไซต์อีซี่อินชัวร์ซึ่งเป็นตัวแทนประกันภัยที่ได้รับความนิยมอันดับ1 มีการบริการที่รวดเร็วและคอยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ทำประกันในทุกขั้นตอน

    รวมถึงสามารถติดต่อขอข้อมูลพร้อมคำแนะนำต่างๆจากทางเจ้าหน้าที่ได้ตลอด นอกจากนี้ยังมีบริการผ่อน 0% เพื่ออำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรมทางการเงินสำหรับท่านที่สนใจสามารถขอข้อมูลเพิ่มเติมได้ผ่านทางเว็บไซต์ โดยทางบริษัทก็ยังมีสิทธิพิเศษอีกมากมายรอคุณอยู่

  • ค่าเสียหายส่วนแรก (Deductible) คืออะไร อ่านแล้วเข้าใจ รับรองไม่ยาก

    ค่าเสียหายส่วนแรก (Deductible) คืออะไร อ่านแล้วเข้าใจ รับรองไม่ยาก

    ค่า Deductible
    ค่าเสียหายส่วนแรก-Deductible-คืออะไร

    ค่าเสียหายส่วนแรก (Deductible) คืออะไร ?

    ตามที่เคยบอกไปแล้วว่าค่าเสียหายส่วนแรกจะมี 2 แบบ คือ Excess กับ Deductible หลังจากที่เราได้ทำความรู้จักกับเจ้า Excess ไปแล้ว วันนี้เราจะมาพูดถึงเจ้า Deductible กันดีกว่า ว่าเขาคือใคร และต่างกับเจ้า Excess ยังไง

    กิมท้อ : อากิมไล้ ไอค่า Deductible นี่มันคือค่าเสียหายส่วนแรกใช่ม้ายยย?

    กิมไล้ : แม่นแล้วอากิมท้อ แต่เจ้า Deductible จะเป็นค่าเสียหายส่วนแรกที่ทางผู้เอาประกันอย่างเรา ๆ ตกลงยินยอมจ่ายให้กับบริษัทประกันภัยด้วยความสมัครใจ ถ้าหากเกิดเหตุการชนขึ้นมาซึ่งเราเป็นฝ่ายผิด หากเราจะนำรถเข้าเคลม เราจะต้องเสียค่า Deductible ให้บริษัทประกันภัยด้วย

    กิมท้อ : ละไอค่า Deductible มันเสียครั้งนึงเท่าไรอ่า ลื้อรู้ม้ายยย?

    กิมไล้ : ปกติแล้ว Deductible จะอยู่ที่ประมาณ 1,000 – 5,000 บาท โดยจะมีค่า Deductible ระบุอยู่ที่หน้าตารางกรมธรรม์ประกันภัย ที่สำคัญใช้เป็นส่วนลดค่าเบี้ยได้ด้วย

    ตามบทสนทนาของ 2 กิม ขอสรุปประมาณนี้ละกัน  “Deductible” เป็นเงินค่าเสียหายส่วนแรกที่เราตกลงยินยอมทำกับจ่ายให้บริษัทประกันภัย หากเกิดเหตุการชน และเราต้องการเคลมประกัน เราจะต้องจ่ายค่า Deductible ให้บริษัทประกันภัย เมื่อเราเป็นฝ่ายผิด หากเราเป็นฝ่ายถูกก็ไม่ต้องเป็นกังวลอะไรทั้งนั้น”

    ค่า Deductible สามารถใช้เป็นส่วนลดค่าเบี้ยประกันได้จริงหรือ ?

    แน่หรือ พี่จ๋า ค่า Deductible ใช้เป็นส่วนลดค่าเบี้ยได้จริงหรือ? “จริงสิจ๊ะ แม่สาวน้อย” ค่า Deductible ใช้เป็นส่วนลดค่าเบี้ยกรมธรรม์ได้จริง ขอยกตัวอย่างง่ายๆ

    เราได้ทำประกันกับบริษัทประกันที่นึง ค่าเบี้ยต่อปีอยู่ที่ 15,000 บาท เราเลือกทำประกันแบบมี Deductible อยู่ที่ 3,000 บาท ซึ่งมีระบุไว้ในหน้าตารางกรมธรรม์ นั่นเท่ากับว่า เราได้ส่วนลดค่าเบี้ยประกันไปแล้ว 3,000 เบี้ยที่เราจะจ่ายจริงๆ ต่อปี คือ 12,000 บาทเท่านั้น (15,000 – 3,000 = 12,000)

    หากเกิดเหตุรถชน ซึ่งเราเป็นฝ่ายผิดแบบเต็ม ๆ บริษัทประกันประเมินความเสียหายของรถเราอยู่ที่ 10,000 บาท หากเราต้องการจะซ่อมรถเราเราต้องจ่ายค่า Deductible 3,000 บาท ส่วนที่เหลืออีก 7,000 บาท บริษัทประกันจะเป็นผู้รับผิดชอบเอง หากความเสียหายที่เกิดขึ้นไม่เกิน 3,000 บาท ผู้เอาประกันจะเป็นผู้รับผิดชอบเองตามความเป็นจริง

    ทำประกันแบบมี Deductible เหมาะกับใคร ?

    • ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการขับรถมาเป็นเวลานาน
    • ขับรถมานาน และไม่เคยเกิดอุบัติเหตุ
    • มั่นใจในการขับขี่ของตนเอง
    • สามารถแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้ดี
    • มีการตัดสินใจที่ดี

    ถ้าเกิดคุณมั่นใจก็ทำประกันภัยแบบมี Deductible เลย เพราะค่าเบี้ยประกันถูกกว่าราคาเต็มแน่นอน รับรองว่าคุ้ม แต่ก็แอบมีความเสี่ยงชนกันถ้าไปชนกับชาวบ้านเขาอ่ะนะ

    แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเลย การทำประกันแบบมีค่า Deductible ถือเป็นการเพิ่มความระมัดระวังในการขับขี่ให้มากขึ้น เพื่อลดความประมาทซึ่งเป็นสาเหตุหลักๆ ของการเกิดอุบัติเหตุ ไม่ว่าจะเลือกทำประกันแบบไหนก็ตาม ทางเราขอให้เพื่อนๆ ศึกษาข้อเสนอ เงื่อนไขการรับประกันภัยให้ดี จะได้ไม่ถูกเอาเปรียบง่ายๆ

  • โบรกเกอร์ประกันภัย คืออะไร พร้อมวิธีเลือกโบรกเกอร์อย่างไรไม่ให้โดนหลอก

    โบรกเกอร์ประกันภัย คืออะไร พร้อมวิธีเลือกโบรกเกอร์อย่างไรไม่ให้โดนหลอก

    โบรกเกอร์ประกันภัย หรือ โบรกเกอร์ประกันภัยรถยนต์ คืออะไร

    โบรกเกอร์ประกันภัย

    การทำประกันรถผ่าน โบรกเกอร์ประกันภัย ถือว่าได้รับความนิยมค่อนข้างมากในปัจจุบัน เนื่องจากราคาเบี้ยประกันภัยรถยนต์นั้นมีราคาถูกกว่านั่นเอง เพื่อให้เห็นภาพกันมากขึ้นเราลองมาทำความรู้จัก โบรกเกอร์ประกันภัยรถยนต์ ว่าคืออะไรกันดีกว่า และขอบอกเลยว่าหากคิดจะทำประกันผ่านบริษัทโบรกเกอร์ประกันภัยต้องอ่านบทความนี้ ไม่งั้นอาจพลาดท่าถูกพวกโบรกเกอร์ผีหลองตุ๋นเงินได้ค่ะ

    โบรกเกอร์ประกันภัย คืออะไร

    โบรกเกอร์ประกันภัย คือ บริษัทโบรกเกอร์ประกันภัยรถยนต์ที่ทาง คปภ. อนุญาตให้เปิดดำเนินการเกี่ยวกับธุรกิจประกันภัย มีหน้าที่เสนอขายแผนความคุ้มครอง รวมถึงให้คำแนะนำเกี่ยวกับการประกันภัย รูปแบบของโบรกเกอร์ประกันภัยที่ได้รับความนิยมมาก ๆ นั่นคือ โบรกเกอร์ประกันภัยรถยนต์ ซึ่งปัจจุบันนี้มีบริษัทโบรกเกอร์ประกันรถให้เราเลือกทำประกันด้วยมากมายหลากหลายบริษัท แต่ละเจ้าแข่งขันกันอย่างดุเดือดน่าดู

    24 insure เลยมีวิธีการเลือกโบรกเกอร์ประกันภัยมาฝากสำหรับคนที่กำลังเลงเลไม่แน่ใจว่าจะทำประกันผ่านโบรกเกอร์ประกันภัย ที่ไหนดี ?

    วิธีเลือกว่า โบรกเกอร์ประกันภัยรถยนต์ ที่ไหนดี

    ตามที่ได้กล่าวไปแล้วข้างต้นค่ะ ว่าธุรกิจการประกันภัยมีการแข่งขันที่ค่อนข้างเถื่อนพอตัว ทั้งบริษัทประกันภัยแต่ละเจ้า รวมถึงบริษัทโบรกเกอร์ประกันภัยรถยนต์ ครั้นจะมานั่งเช็คข้อมูลของบริษัทโบรกเกอร์ประกันภัยทุกเจ้าก็คงไม่ไหว ลองมาดูวิธีเลือกคร่าว ๆ กันค่ะว่า โบรกเกอร์ประกันภัยรถยนต์ ที่ไหนดี

    1. โบรกเกอร์ประกันภัยที่ดีราคาค่าเบี้ยประกันภัยต้องไม่ถูกจนเกินไป ให้ตั้งแง่เอาไว้ก่อนเลยค่ะ หากโบรกเกอร์ประกันภัยรถยนต์เจ้าไหน เสนอราคาค่าเบี้ยประกันภัยให้ถูกจนน่าตกใจ แสดงว่า โบรกเกอร์ประกันรถ เจ้านั้น ๆ มีแนวโน้มที่จะหลอกลวงสูง อะไรที่มันถูกจนเกินความพอดี นั้นไม่ดีจริง ๆ หรอกค่ะ

    2. ความมั่นคง ความน่าเชื่อถือ ถือว่าเป็นสิ่งแรก ๆ ที่คนส่วนใหญ่มองหาเวลาเลือกที่จะทำประกันรถยนต์ผ่านบริษัทโบรกเกอร์  โบรกเกอร์ประกันภัย ความน่าเชื่อถือที่ว่าต้องมีลักษณะคือ เปิดดำเนินการมานาน , มีตัวตนจริง ๆ , มีช่องทางการติดต่อที่ชัดเจนทั้งแบบ Online และ Offline

    3. โบรกเกอร์ประกันภัยที่เราเลือกทำประกันด้วยต้องไม่เคยมีประวัติการหลอกลวง รวมถึงไม่เคยมีข่าวเสียหายเกิดขึ้น ซึ่งหากเราเกิดสงสัยว่า เฮ้ย.. ไอโบรกเกอร์ที่เราเลือกทำประกันด้วยเนี่ย มันเคยหลอกลวงรึป่าว วิธีเช็คก็ง่าย ๆ ลองเอารายชื่อบริษัทโบรกเกอร์ประกันภัยที่เรากำลังจะตัดสินใจทำประกันด้วยไป Search Google , Pantip , Facebook ดูเลย จะเจ๋ง หรือ เจ๊ง รับรองว่ารู้เรื่อง

    4. การที่โบรกเกอร์ประกันภัยนั้นมีบริษัทประกันให้ลูกค้าอย่างเรา ๆ เลือกเยอะ นั่นหมายความว่าโบรกเกอร์ประกันรถเจ้านั้น ๆ ได้รับความไว้วางใจจากบริษัทประกันภัยนั่นเอง ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ดี ผิดกับโบรกเกอร์ประกันภัยที่มีตัวเลือกบริษัทประกันน้อย แบบนี้.. ไม่แนะนำให้ทำประกันภัยด้วยสักเท่าไหร่

    5. โบรกเกอร์ประกันภัยที่ดีต้องมีบริการหลังการขาย รวมถึงสิทธิพิเศษต่าง ๆ ให้กับลูกค้า เช่น รถใช้ทดแทนระหว่างซ่อม , บริการช่วยเหลือฉุกเฉินยามเกิดเหตุ , ผ่อนประกันรถยนต์แบบเงินสด และผ่านบัตรเครดิต ฯลฯ

    การทำประกันรถผ่าน โบรกเกอร์ประกันภัย ค่อนข้างมีความเสี่ยง ถ้าเลือกไม่เป็น เลือกไม่ดี เห็นแก่ของถูกมากเกินไป ก็อาจจะถูกพวกโบรกเกอร์ผีหลอกตุ๋นเงินเอาได้ แต่หากนำวิธีเลือกโบรกเกอร์ประกันภัยรถยนต์ข้างต้นไปใช้พิจารณาบริษัทโบรกเกอร์ที่สนใจทำประกันภันด้วย รับรองเลยว่าจะได้ความคุ้มค่ากลับมาอย่างแน่นอนค่ะ

  • ทุนประกัน คืออะไร ? ยิ่งทุนประกันรถยนต์สูง ยิ่งดีจริงหรอ

    ทุนประกัน คืออะไร ? ยิ่งทุนประกันรถยนต์สูง ยิ่งดีจริงหรอ

    ทุนประกัน คืออะไร ?

    หลาย ๆ คนคงรู้อยู่ละแหละว่า ทุนประกัน คืออะไร ?

    ทุนประกัน คือ เป็นเงินที่บริษัทประกันภัยจะจ่ายชดเชยให้กับผู้ทำประกันภัย ในภาษาอังกฤษ เรียกว่า sum insured หรือที่ภาษาประกันเรียกว่า “ค่าสินไหม” นั่นแหละ โดยบริษัทประกันภัยจะจ่าย ทุนประกัน ชดเชยให้ก็ต่อเมื่อทรัพย์สินเกิดความเสียหาย อย่างที่เราคุ้น ๆ กัน ก็จะเป็นทุนประกันรถยนต์ และทุนประกันชีวิต

    วิธีคำนวณ ทุนประกันรถยนต์

    น่าจะมีหลายคนสงสัยกันบ้างแหละ ว่าเอ๊ะ ! ทำไม ? รถฉันถึงได้ทุนประกันน้อยจัง บริษัทประกันแกมั่วป่ะเนี่ย เอาอะไรมาวัดว่ารถคันไหนจะได้ ทุนประกัน น้อย หรือรถคันไหนได้ทุนประกันมาก เดี๋ยวจะบอกให้..

    ณ จุดนี้ต้องบอกก่อนเลย ว่าบริษัทประกันเค้ามีหลักการคิดคำนวณทุนประกันรถยนต์จากราคารถใหม่ป้ายแดง หรือราคากลางในตลาด ไม่ได้พิศวาสใครหน้าไหนเป็นพิเศษทั้งนั้น

    แต่หลักการคำนวณ ทุนประกัน รถยนต์ ก็ยังมิหมดเพียงเท่านี้ เมื่อได้ราคากลางในตลาด หรือราคารถใหม่ป้ายแดงเรียบร้อยแล้ว ก็จะนำราคาดังกล่าวไปหักค่าเสื่อมสภาพด้วย

    ส่วนจำนวนทุนประกันที่เหมาะสม บริษัทประกันจะให้ทุนประกันกับรถทุกคันอยู่ที่ 80% ของราคากลางในตลาด ส่วนตัวนี่ก็มองว่าไม่มาก และไม่น้อยเกินไป กำลังพอดี ..

    แต่ถ้าเป็นรถใหม่ป้ายแดงที่เพิ่งถอยมาใหม่สด ๆ ซิง ๆ บริษัทประกันจะให้ ทุนประกัน อยู่ที่ 80% ของราคารถป้ายแดง

    สำหรับการต่อประกันรถยนต์ในปีถัดไปทุนประกันจะถูกลดลงมา 90% ของจำนวนทุนประกันในปีที่แล้ว แต่ถ้าจำทุนประกันปีที่แล้วไม่ได้ บริษัทประกันจะคิดทุนประกันให้ใหม่ โดยอิงจากราคากลางของตลาดในปีนั้น ๆ

    ตัวอย่าง

    ปี 1 : ซื้อรถป้ายแดงมาราคา 800,000 บาท

    วิธีคิดคำนวณทุนประกัน 800,000 x 80%

    ทุนประกัน เท่ากับ 640,000 บาท +/-

    —————————————————————-

    ปี 2 : ทุนประกันปีที่แล้ว 640,000 บาท

    วิธีคิดคำนวณทุนประกันในปีต่ออายุ 640,000 x 90%

    ทุนประกัน เท่ากับ 570,000 – 580,000 บาท +/-

    ***ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับดุลพินิจจากบริษัทประกันด้วยบวกลบกันไม่มาก

    ทุนประกันรถยนต์ จะสูงหรือต่ำก็ขึ้นอยู่กับรถยนต์ที่ใช้ขับขี่ด้วย มันคงไม่เมคเซ้นส์เท่าไรนัก ถ้าคุณขับรถราคาถูก แต่อยากได้ทุนประกันที่สูงเกินจริง และก็คงไม่ดีเท่าไรถ้าขับรถแพง แต่จะทำทุนประกันต่ำ ทุกอย่างเลยต้องมีความพอดี

    ยิ่งทุนประกันสูง จำไว้เลยว่าเบี้ยประกันรถยนต์จะยิ่งแพง !! ทำสูงเกินความจำเป็นไปก็เท่านั้นแหละ เพราะเวลาที่เราแจ้งเคลมประกัน บริษัทประกันจะจ่ายเงินชดเชยความเสียหายให้ตามค่าเสียหายที่เกิดขึ้นจริงไม่มีบวกเพิ่ม หรือจ่ายเต็มจำนวนของวงเงิน ทุนประกัน เพราะฉะนั้น.. ทำทุนประกันแต่พอดี อย่าโลภมาก มันเปล่าประโยชน์นะจ๊ะเบบี๋

    ขอบคุณข้อมูลจาก https://www.thaideemove.com/

  • รถกระบะรับจ้างขนของ ขนย้าย ขนส่งสินค้า ราคาเป็นกันเอง ที่ไหนดี

    รถกระบะรับจ้างขนของ

    สวัสดีเพื่อนๆทุกท่านที่ติดตาม 24insure วันนี้ทีมงานมีคำแนะนำเกี่ยวกับ รถกระบะรับจ้างขนของ ว่าก่อนเลือกใช้บริการแต่ละเจ้า เราต้องรู้อะไรบ้าง พร้อมเคล็ดลับที่เราเอาไว้ต่อรองราคากับผู้ให้บริการ บอกเลยว่าบทความนี้จะช่วยให้คุณเลือกผู้ให้บริการที่ดีที่สุดได้อย่างแน่นอน (more…)